Book NowTop

แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและโดยเฉพาะภูเก็ตในปี 2566-2567

ชาวต่างชาติลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทใดในประเทศไทย? ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา?

ในปี พ.ศ. 2566 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในภูเก็ตและประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปสู่อพาร์ทเมนท์ระดับหรูและพรีเมียม โดยมีพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้โครงการเหล่านี้แซงหน้าการจดทะเบียนอพาร์ตเมนต์แนวสูงในช่วงครึ่งปีแรก จำนวนชาวต่างชาติที่ย้ายมาเมืองไทยเพื่ออาศัยและทำงานเพิ่มขึ้น การฟื้นตัวครั้งนี้ตอกย้ำถึงเทรนด์ใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งสะท้อนถึงความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของเจ้าของบ้านและนักลงทุน

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ได้ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการใหม่เหล่านี้ โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่อยู่อาศัยที่เน้นชุมชนซึ่งตอบสนองความต้องการความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายมากขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตได้รับประโยชน์จากการดึงดูดผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนำเสนอการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความเงียบสงบ หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการพัฒนา ซึ่งบ่งบอกถึงอนาคตที่แข็งแกร่ง แม้ว่าการพัฒนาอาคารสูงจะครอบงำแบบดั้งเดิม แต่การเปลี่ยนไปใช้ที่อยู่อาศัยแนวราบบ่งชี้ถึงการตอบสนองของตลาดต่อรูปแบบการใช้ชีวิตและรูปแบบการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป

การคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ต

ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งในปี 2567 คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น 10-15% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการจากรัสเซียและผลตอบแทนที่คาดหวังของผู้ซื้อชาวจีนในช่วงครึ่งหลังของปี ในปี 2566 ราคาบ้านในภูเก็ตเพิ่มขึ้น 10-15% สูงกว่าปกติที่ 5% และเติบโตสูงสุดเท่าที่เคยมีมา บางโครงการเติบโตถึง 30% เนื่องจากแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ ทำเลที่ตั้งดี และมีความต้องการสูง

ปี 2566 ถือเป็นปีสูงสุดของตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ต โดยมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 4 เท่าของค่าเฉลี่ย ยอดขายวิลล่ารีสอร์ทสูงถึง 400 ยูนิต ซึ่งสูงกว่าปกติ 100 ยูนิตต่อปี ยอดขายอพาร์ทเมนท์ในอาคารอพาร์ตเมนต์หลายหลังเพิ่มขึ้นจาก 500-600 ต่อปีเป็น 2,000

ตลาดที่อยู่อาศัยบูมในช่วงที่การท่องเที่ยวภูเก็ตบูมครั้งแรกหลังการแพร่ระบาดในปี 2564 ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง โดยหลายคนซื้อวิลล่าและอพาร์ตเมนต์หรูจำนวนมาก การขาดแคลนที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงส่งผลให้นักพัฒนาต้องเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 ส่งผลให้ตลาดถึงจุดสูงสุดในปี 2566

แนวโน้มและโอกาสการลงทุน

ผู้ซื้อบ้านส่วนใหญ่ในภูเก็ตเป็นชาวรัสเซีย ซึ่งซื้ออพาร์ทเมนต์และวิลล่าขนาดใหญ่ โดยมักซื้อแบบครอบครัว ผู้ซื้อสัญชาติรายใหญ่เป็นอันดับสองคือชาวจีนที่ต้องการเข้าพักระยะสั้นหรือชั่วคราว กลุ่มที่สามประกอบด้วยชาวยุโรปที่กำลังมองหาอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่ในโครงการขนาดเล็กและบ้านพักตากอากาศที่สามารถให้เช่าได้

การเติบโตของราคาบ้านในภูเก็ตคาดว่าจะดำเนินต่อไปในปี 2567 แม้ว่าอุปทานใหม่จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาจะสูงขึ้นต่อไปได้ยาก ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนและในกรุงเทพฯ ก็ได้เข้าสู่ตลาดภูเก็ตเช่นกัน โดยได้รับความสนใจจากศักยภาพของตลาด

การทบทวนเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจของประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มในปี 2567 ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี ธนาคารโลกคาดการณ์การเติบโตของ GDP สูงถึง 3.2% ซึ่งอาจนำไปสู่ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะคงอยู่ในช่วงเป้าหมาย 1% ถึง 3%

มาตรการของรัฐบาล อัตราดอกเบี้ยต่ำ และความยืดหยุ่นของนักพัฒนา มีส่วนทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวได้ในช่วงการแพร่ระบาด อุปสงค์ในประเทศและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน

การลงทุนจากต่างประเทศและโอกาสเชิงกลยุทธ์

ประเทศไทยยังคงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เล่นจากต่างประเทศที่มีความหลากหลายเข้ามามีบทบาทมากขึ้น นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จกำลังมองหาสถานที่ยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ และภูเก็ต ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่เป็นไปได้ พวกเขายังมองหาโอกาสในภาคการค้าและการบริการอีกด้วย

บทสรุป

เมื่อพิจารณาถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มการเติบโต ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของไทย การเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและตลาดที่แข็งแกร่งทำให้นักลงทุนมีโอกาสที่เชื่อถือได้ การทำวิจัยและการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดกับผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากโอกาสเหล่านี้และปกป้องการลงทุนของคุณจากความเสี่ยง

เวลาในจังหวัดภูเก็ต
07:37 AM
firedev